เมื่อ Neon เอเจนท์ใหม่ของ Valorant ไปคล้ายกับ Tracer จาก Overwatch และนี่คือคำอธิบายจาก Riot Games
Valorant เริ่มต้นปีใหม่ด้วย Episode 4 Act 1 มีทั้ง battle pass ใหม่ สกินใหม่ รวมถึงคอลเลคชั่นการบัฟและเนิร์ฟเต็มไปหมด และที่พลาดไม่ได้แน่นอนคือเอเจนท์ตัวใหม่ Neon ผู้มาจากฟิลิปปินส์ การผสานความเร็วด้วยกระแสไฟฟ้าเพื่อสยบศัตรู ทำให้เธอได้เข้ามาอยู่ในใจของเหล่าผู้เล่น
บางคนเปรียบเทียบเธอกับ Octane ของ Apex Legends เนื่องจากความสามารถของเธอในการท่องไปทั่วแผนที่ ในขณะที่หลายคนเทียบเธอกับ Tracer ของ Overwatch ซึ่งมีการจัดประเภทเอเจนท์ตามเซ็ทสกิล หลัก ๆ คือ ดาเมจ แทงค์ และ ซัพพอร์ต
Neon และ Tracer มีความคล้ายคลึงกันแค่ไหน?
ตัวละครทั้งสองต่างมีฉายาว่าเร็วที่สุดในเกมของตนเอง ในขณะที่ความคล่องตัวของ Neon ส่วนใหญ่นั้นเกี่ยวข้องกับความสามารถในการใช้ไฟฟ้า Tracer ก็อาศัยความสามารถในการกระโดดข้ามเวลาเพื่อเร่งการเคลื่อนไหวของตัวเอง
ทั้งคู่จัดอยู่ในกลุ่มสายจู่โจมเหมือนกัน Tracer เป็นหนึ่งในฮีโร่ที่สร้างความเสียหายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของ Overwatch ด้วยศักยภาพสูงสุดในการวิ่งยิง (run-and-gun) บวกกับสกิลของเธอ ส่วน Neon ก็สามารถพุ่งไปยังส่วนต่าง ๆ ของแผนที่ได้โดยไม่มีสัญญาณเตือน และทำลายล้างใครก็ตามที่ขวางทางเธอ
Tracer's Blink vs Neon's High Gear
คลิปตัวอย่างการเล่นที่ Riot Games ปล่อยออกมาแสดงให้เห็นว่า Neon รู้สึกถึงกระแสไฟฟ้าในร่างกายของเธอ ขณะที่เธอพุ่งไปตามทางเดินแคบ ๆ และจัดการคู่ต่อสู้ในทันที
จากคลิปแสดงการวิ่งผ่านเลนก่อนที่จะสไลด์ตัวและยกเลิกการสไลด์ในเวลาเพียงเสี้ยววินาที ช่วยให้เธอล้มคู่ต่อสู้ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นหนึ่งในความสามารถที่ทำให้ Neon เป็นเอเจนท์ Valorant ที่เร็วที่สุด
เช่นเดียวกับความเร็วของ Neon ตัวละคร Tracer ก็มีสกิล "Blink" ที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการเคลื่อนที่ของเธอ ซึ่งทำงานคล้ายกับสกิล Dash ของ Jett ใน Valorant Blink สามารถชาร์จได้ 3 ครั้ง แต่ละชาร์จจะมีระยะเวลา 3 วินาทีในการคูลดาวน์
Tracer's Pulse Bombs vs Neon's Relay Bolt
ความสามารถ Relay Bolt ของ Neon คือการปล่อยบอลพลังที่สะท้อนพื้นผิวได้ 1 ครั้ง ก่อนจะระเบิดพลังงานที่ทำให้ผู้เล่นในรัศมีติดสตั๊นและเดินช้าลง ซึ่งสกิลนี้เทียบได้กับ Pulse Bomb อัลติเมทของ Tracer ที่สร้างความเสียหายมหาศาลแก่คู่ต่อสู้ด้วยการขว้างระเบิดออกไปข้างหน้า
Pulse Bombs จะติดอยู่บนพื้นและมีรัศมีโจมตีสั้น ไม่เหมือนความสามารถของ Neon ที่ทำให้มึนงง ทั้งยังสร้างความเสียหายได้ไม่เท่ากับ Pulse Bombs แม้จะต่างในด้านการทำงานแต่มีความคล้ายคลึงกันทางกายภาพ
Tracer's Pulse Pistol vs Neon's Overdrive
สกิลอัลติเมทของ Neon คล้ายกับการเข้าสู่สภาวะบ้าคลั่ง ทำลายคู่ต่อสู้ด้วยการปล่อยสายฟ้าจากปลายนิ้ว เป็นการโจมตีผสานกับความสามารถในการวิ่งที่เร็วขึ้น อันตรายสำหรับศัตรูที่อยู่ในขอบเขตการมองเห็นของเธอ
Overdrive ของ Neon มีความคล้ายคลึงกับ Pulse Pistol ของ Tracer ด้วยแนวคิดในการมีอาวุธที่แตกต่างกันสำหรับเอเจนท์แต่ละคนซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะสำหรับเกม FPS และ Pulse Pistols ก็เป็นอาวุธที่ใช้ได้สำหรับผู้เล่นที่เลือก Tracer เท่านั้น
Tracer ใช้ Pulse Pistols ยิงคลื่นพลังโจมตีที่สามารถสร้างความเสียหายอย่างหนักแก่ศัตรูในระยะใกล้-กลาง และมีความคล่องตัวเคลื่อนไหวในขณะยิงสูง ทำนองเดียวกันกับอัลติเมทของ Neon ที่สามารถคุกคามคู่ต่อสู้ได้ในขณะที่เคลื่อนตัวชาร์จพลังไปรอบ ๆ ด้วยความเร็วของเธอ
ผู้พัฒนาของ Valorant อธิบายถึงความคล้ายคลึงของ Neon และ Tracer
Ryan ‘rycou’ Cousart นักออกแบบเกมของ Valorant ได้เปิดใจเกี่ยวกับความคล้ายกันเหล่านี้ ระหว่างการทดสอบ Episode 4 กับผู้สัมภาษณ์จาก Dexerto ทำให้เราเข้าใจถึงกระบวนการออกแบบ และเรื่องราวเบื้องหลังการเปรียบเทียบ Neon/Tracer หรือ Neon/Octane
“แม้ว่าความสามารถของ Neon จะไม่ได้รับแรงบันดาลใจโดยตรงจากตัวละครเหล่านี้ แต่เรามักจะพบกลไกที่คล้ายกันเพื่อวิเคราะห์ว่าเราได้เรียนรู้อะไรบ้างจากการนำไปใช้งานด้านอื่น ๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการออกแบบของเรา” rycou กล่าว โดยเน้นว่า “Tracer คือหนึ่งในตัวละคร FPS ที่ผมโปรดปรานตลอดกาล และผมสามารถเข้าใจถึงความคล้ายคลึงที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด”
“ผมคิดว่าการทำซ้ำและสิ่งที่ได้เรียนรู้เมื่อออกแบบสำหรับตัวละครสาย 'fast' คือมักจะพบว่าตัวเองอยู่ในเส้นทางที่คล้ายกันไปหมด ส่วนใหญ่เราอาจจะรู้สึกยึดติดกับภาพจำ”
นี่เป็นเรื่องจริงของตัวละครคลาสสิกหลายพันตัว ย้อนกลับไปที่ Sonic the Hedgehog เจ้าเม่นสายฟ้าอันโด่งดังของ SEGA ที่มีบุคลิกแสบซ่าส์ บ้าระห่ำ ความเร็วที่ไม่สามารถควบคุมได้ และความไร้เดียงสาโดยธรรมชาติ ซึ่งได้กลายเป็นลักษณะของกลุ่มตัวละครสายสปีด
ดังนั้น Neon ไม่ได้เป็นเพียง Tracer หรือ Octane ในรูปแบบ Valorant เพราะเธอไม่สามารถโดดข้ามเวลาหรือใช้แท่นดีดตัวแบบแทรมโพลีนได้ เธอเพียงหยิบยืมองค์ประกอบจากตัวละครที่โดดเด่นทั้งสองตัว